อิลคาย กุนโดกัน แผลงฤทธิ์อีกแล้วหลังโชว์ความเก่งทั้งเรียกจุดโทษ และเหมาสองประตูก่อนพา “เรือใบสีฟ้า” ไล่ถลุงเอาชนะ สเปอร์ส 3-0 เก็บสามแต้มนำจ่าฝูงต่อไปโดยมี 53 คะแนน ทิ้งเลสเตอร์อันดับสอง 7 คะแนน และหนี แมนยู ที่แข่งเท่ากันถึง 8 แต้ม อีกทั้งยังทำสถิติชนะเป็นนัดที่ 16 ติดต่อกันทุกรายการ
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าที่ผ่านมา ระหว่างจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สเปอร์ส กลุ่มอันดับ 8 โดยผลงานที่เคยเจอกันในซีซั่นนั้น เป็น แมนฯซิตี้ ที่บุกไปพ่ายให้สเปอร์ส 0-2 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พา “เรือใบสีฟ้า” ชนะรวดมา 15 ครั้งติดกันทุกรายการหลังเกมที่แล้วบุกไปถล่มแชมป์เก่า หงส์แดง 4-1 ก่อนที่จะอัดสวอนซี 3-1 ในเกมเอฟเอ คัพ โดยเกมนี้วางสามแนวรุกเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส แลฟิล โฟเด้น
ระหว่างที่ “ไก่เดือยทองคำ” ของ โชเซ่ มูรินโญ่ เกมในลีกปัจจุบันไล่บดเอาชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0 แต่มาร่วงตกรอบเอฟเอ คัพ หลังแพ้ในช่วงต่อเวลาฯให้ เอฟเวอร์ตัน 4-5 เกมในวันนี้ฝากความมุ่งมาดล่าตาข่ายไว้ที่ แฮร์รี่ เคน, ซุกซน ฮึง-มิน แล้วก็ลูคัส มูร่า
เริ่มเกมครึ่งแรก นาที 13 สเปอร์สได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบหลัง อายเมอริก ลาป๊อร์ก ไปฟาวล์ใส่ แฮร์รี่ เคน ก่อนที่จะ เคน จะวิ่งมาปั่นกว่า 25 หลาบอลโค้งข้ามกำแพงกำลังจะเข้าอยู่แล้วแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาที 21 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ปิแอร์-เอมิล ฮอยแบร์ก ไปเกี่ยวขาขวากุนโดกันล้มลง ผู้ตัดสินพอล เทียร์นี่ย์คอยเช็กกับคณะทำงานวีเออาร์ก่อนรับรองให้ แมนซิตี้ ได้จุดโทษ แล้วก็ครั้งนี้เป็น โรดรี้ รับหน้าที่ฆ่าเข้าไปให้ เจ้าของบ้าน แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
แมนฯซิตี้ ยังเดินหน้าโจมตีอย่างมาก นาที 31 ชูเอา กานเซโล่ ผ่านเข้ากึ่งกลางให้ แบร์ทุ่งนาร์โด ซิลวา ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบแม้กระนั้นบอลก็ยังไปติดบล็อคก่อนไปเข้ามือ อูหรูหรา โยริส
นาที 42 ผู้ร่วมทีมของเป๊ปบุกมาอีกที แล้วก็ชุดนี้แทบได้ลุ้นเม็ดลำดับที่สองหลัง ราฮีม สเตอร์ลิง ใช้ความเร็วที่เหนือกว่าควบไปเอาบอลก่อนหักมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปติดขา ดาวินซอน ซานเชซ ก่อนจังหวะถัดมา กาเบรียล เชซุส จะซ้ำเหาะคานออกไป
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ สเปอร์ส 1-0
ช่วงหลัง มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวคนแรกในทันทีส่ง มูสซ่า ซิสโซหรูหรา ลงไปเล่นแทน ลูคัส มูร่า
นาที 50 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มานำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะเข้าทำอันยอดเยี่ยม ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายทะลุให้ อิลคาย กุนโดกัน ใส่ขึ้นมาก่อนหลุดเข้าไปยิงผ่านมือ อูหรูหรา โยริส เข้าไปเป็นประตูที่ 10 ในฤดูกาลนี้ของดาวเตะชาวเยอรมัน
นาที 59 “ไก่เดือยทองคำ” โต้ตอบขึ้นมาเช่นกัน เอ็นดอมเบเล ซัดไปแฉลบก่อนบอลไปเข้ามือ เอแดร์ซอน โมราเอส
ไปสู่นาที 66 ผู้ร่วมทีมของมูรินโญ่ต้องมาบวงสรวงเม็ดที่สามให้เจ้าถิ่นหลังบอลยาวจาก เอแดร์ซอน เตะจากหน้าประตูมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ควบไปเอาบอลก่อนเกี่ยวบอลลง แล้วลากหนี ดาวินซอน ซานเชซ เข้าไปยิงผ่านอูหรูหรา โยริสเข้าไปอย่างใจเย็นให้ แมนฯซิตี้ นำไปไกล 3-0 แล้วก็เป็นประตูลำดับที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้
นาที 69 อิลคาย กุนโดกัน เล่นต่อไม่ไหวยังมีความรู้สึกเจ็บรบกวสนทำให้ต้องส่ง เฟร์ราน ตอร์เรส ลงมาเล่นแทน
นาที 72 มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง มึงเร็ธ เบล ลงมาเล่นแทน เอริค ลาเมล่า
นาที 81 มึงเร็ธ เบล โชว์สเต็ปโยกหลอกก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส
ขณะที่เหลือ แมนฯซิตี้ ยังครอบครองบอลแล้วก็โจมตีเข้าใส่มากกว่า แม้กระนั้นไม่มีสกอร์เสริมเติม จบเกม แมนฯซิตี้ เอาชนะ สเปอร์ส 3-0 ส่งให้ “เรือใบสีฟ้า” นำจ่าฝูงโด่งโดยทิ้งอันดับ 2 เลสเตอร์ที่แข่งขันมากกว่าถึง 7 คะแนน แล้วก็อยู่ห่างจาก แมนฯยูไนเต็ด ที่แข่งขันเสมอกันที่ 8 คะแนน
รายนามผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม
แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, อายเมอริก ลาป๊อร์ก, โอเล็กซานเดอร์ ซินศาสนาเชนหรูหรา – แบร์ทุ่งนาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน (เฟร์ราน ตอร์เรส น.69)- ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส (ริยาด ผีเรซ น.80), ฟิล โฟเด้น,
กุนซือ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า