• ชื่อของ “สนธิญา สวัสดี” โดนสาดคำถามสารพัด กระทั่งเปลี่ยนเป็นสาเหตุแฮชแท็ก #ดาราcallout รวมทั้ง #saveมิลลิ #SaveMilli ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ชั้น 1
ถ้าหากเอ่ยชื่อ “สนธิญา สวัสดี” นาทีนี้คงไม่มีใครไม่เคยรู้ หรือเปล่าเคยได้ยินชื่อ นักร้อง (เรียน) คนนี้แน่ๆ ด้วยกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียลถาโถมเข้าใส่ กระทั่งเปลี่ยนเป็นสาเหตุแฮชแท็ก #ดาราcallout รวมทั้ง #saveมิลลิ #SaveMilli ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ชั้น 1
วันที่ 22 ก.ค. 2564 กรณี นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การหยุดธรรม รวมทั้งสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งอดีตกาลผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชากรเมือง หอบหลักฐานเป็นหนังสือรายนามดารา นักร้อง รวมทั้งคนดังกว่า 20 คน มายื่นให้กับผู้บังคับบัญชาตำรวจนครบาล ให้ตรวจสอบรวมทั้งตำหนิติเตียนไตร่ตรองความผิดพลาด โดยเจ้าตัวกล่าวถึงว่า เพื่อให้เกิดข้อพิสูจน์ในสังคม หลังกลุ่มคนดังได้ใช้เครือข่ายสังคมให้ความเห็นด้านการเมืองรวมทั้งเกี่ยวโยงการบริหารงานของรัฐบาล
รวมทั้งนี่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวโยงของ “สนธิญา สวัสดี” บุคคลที่ถูกเอ่ยถึงอย่างยิ่งในขณะนี้ที่ไทยเมืองออนไลน์พรีเซนเทชั่น
นายสนธิญา สวัสดี ตอนนี้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การหยุดธรรม รวมทั้งสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รวมทั้งปริญญาโท เมืองศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งยังยังเป็นอดีตสมาชิกพรรคพลังประชากรเมือง รวมทั้งอดีตกาลคณะทำงานยุทธศาสตร์พัฒนากรุ๊ปจังหวัดภาคกลางตอนล่าง (สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์)
นครบาลรับลูกตรวจสอบนักแสดง-ดารา 25 คน อยู่ในข่าย Call out
ภายหลังที่ผู้บังคับบัญชาตำรวจนครบาลรับเรื่องตรวจสอบกรณีการ Call out ของดารา นักร้อง รวมทั้งคนดัง เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในขณะนี้ ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายข้อกล่าวหา
พล.ตำบลตำบลปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./พิธีกร แผนกบัญชีน. ชี้แจงว่า เดี๋ยวนี้ได้ส่งเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วให้กับพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวนในแต่ละพื้นที่ดำเนินงานตามกฎหมาย โดยจะแบ่งเป็นสองส่วนเป็นกรณีมีการกล่าวเกี่ยวโยงส่วนบุคคล รวมทั้งถ้าหากเข้าเกณฑ์ความผิดพลาดดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ก็แจ่มแจ้งให้ผู้ที่ถูกป้ายความผิดไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่ป้ายความผิด ส่วนข้อกล่าวหาใดที่ตำรวจสามารถร้องทุกข์ได้ เช่น ความผิดพลาดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าระบบฯ ก็จะฟ้องร้องได้ถ้าหากมีหลักฐานแน่ชัด
“เดี๋ยวนี้ตำรวจมีรายนามนักแสดง ดารา ที่อยู่สำหรับในการไตร่ตรองแล้วประมาณ 25 คน แต่ยังไม่ยืนยันว่าทั้งปวงจะถูกฟ้องร้อง โดยจะมีการไตร่ตรองความผิดพลาดเป็นรายตัว ว่าเป็นการให้ความเห็นโดยความซื่อสัตย์หรือเปล่า”
เพชร กรุที่พล ข่มขู่ฟ้องดูหมิ่น สนธิญา กลางรายการโหนกระแส
วันนี้ (22 เดือนกรกฎาคม) รายการโหนกระแส ที่มี นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ “ชายหนุ่ม” เป็นโฆษก ได้เชิญ นายสนธิญา เสวนาถึงกรณีดังที่กล่าวมาแล้ว โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนมิได้ไปฟ้องร้อง แต่ได้แก่การใช้สิทธิตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2560 มาตรา 41(2) เป็นเรื่องของการร้องทุกข์กล่าวโทษให้กับเจ้าหน้าที่ของเมือง เพื่อตรวจสอบหาข้อพิสูจน์
ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ทางรายการได้โฟนอินถึง นายกรุณพล เทียนกาญจน์ หรือ เพชร หนึ่งในดาราที่มีชื่ออยู่ใน 20 ดารา นักร้อง ที่ออกมา Call out โดยนายกรุณพล ได้เสวนาถึงรายละเอียดในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กล่าวไว้ข้างต้น พร้อมเปิดใจว่า ก็รู้สึกฮาดี การออกมาบอกอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้ ถ้าเกิดใช้สิทธิใช้เสียงของรัฐธรรมนูญไทย สำหรับในการแสดงอิสระในการพูดแล้วมันไม่ถูก ผมว่าประเทศนี้มันก็มีปัญหาแล้วครับ ส่วนที่คุณสนธิญาหนักใจ ว่าถ้าหากมีการคอลเอาต์ในข้อมูลที่ไม่ถูกจำต้อง แล้วทำให้เกิดความรู้สึกสับสน ทำให้ประเทศอื่นมองดูเราไม่ดีนั้น คือมันมีเนื้อความที่เป็นเนื้อความเท็จ สร้างความรังเกียจ หรือยั่วยุให้เกิดความกระด้างกระเดื่องไหมครับ
ถ้าเกิดมันยังไม่มี แล้วคุณตีตนไปก่อนไข้ แล้วกระบวนการทำที่คุณออกมาแบบงี้ มันทำให้คนที่มีความเห็นที่แตกต่าง ยิ่งเกิดความรังเกียจ ที่สำคัญมันทำให้คนที่เสพข่าวด้านเดียว หลงผิดไปต่างๆนานา ถ้าเกิดอย่างนี้ถ้าหากคุณบอกว่าขับขี่รถออกถนนชนผู้ตาย ถ้าเช่นนั้นคุณก็ไม่ต้องขับขี่รถไปตลอดชาติแบบงั้นหรอครับ เรื่องอะไรที่มันยังไม่เกิด แล้วไปทำเป็นข่าว ตั้งมั่นฟ้องร้องฟ้องร้องฟ้องร้อง ผมท้าเลยนะครับ ถ้าเกิดมีความรู้สึกว่าผมไม่ถูกไปฟ้องร้องฟ้องร้องครับ ผมจะได้ฟ้องร้องกลับ รวมทั้งสิ่งที่คุณทำ สักครู่ผมจะไปดูข้อกำหนดกฎหมาย ถึงคุณจะยังไม่ฟ้องร้องก็ตาม ถ้าเกิดเข้าข้อกำหนดกฎหมาย ผมแจ่มแจ้งดูหมิ่นคุณ
ฟ้องร้อง “ฮาร์ท สุทธิเหล่ากอ” โพสต์ปั่นเฟกนิวส์ วัคซีนโควิด
วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่ บก.ปอท. นายสนธิญา เดินทางไปที่ กองสั่งงานทำลายล้างพฤติกรรมความผิดพลาดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พล.ตำบลตำบลอนันต์ นานาทรัพย์สมบัติ ผบกรัมปอท. พร้อมหลักฐานที่เก็บมาให้ตรวจสอบรวมทั้งเอาผิดกับผู้ครอบครองบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Suthipongse Heart Thatpithakkul” กรณีโพสต์เฟซบุ๊กด้วยเนื้อความอันเป็นเท็จ ปริมาณ 3 โพสต์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพ์ฯ มัธยม14(2)(3) รวมทั้ง(5)
นายสนธิญา เปิดเผยว่า วันนี้ตนมา บก.ปอท.เนื่องจากมองเห็น นายสุทธิเหล่ากอ ทัดป้องกันกุล ได้ไลฟ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้ติดตามมาตั้งแต่ 22 เมษายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปติดตามมองก็มองเห็นเขาโพสต์เนื้อความที่คงจะเข้าเกณฑ์ความผิดพลาด พระราชบัญญัติคอมพ์ฯ ค่อนข้างจะแน่ชัด ว่า…“ยิ่งผมอายุมาก ยิ่งมองเห็นอะไรมาก ผมมั่นใจว่าคนมีอำนาจไม่ใช่เขาจะโง่ แต่เขาไม่อยากให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ไม่อยากให้คนภายในชาติมีการพัฒนา” รวมทั้งได้โพสต์อีกครั้งเมื่อสอง-วันที่ผ่านมา ว่า… “ขจัดปัญหาวิกฤติวัคซีนง่ายสุดๆ บอกสิครับ ประยุทธ์ ประวิตร เจ้าสัว ฉีดยี่ห้ออะไร #ผูกขาดวัคซีนนี่ถ้าเกิดไม่โหดเหี้ยมจริงทำไม่ได้นะ” รวมทั้งยังมีอื่นๆอีก เช่น “หัวหน้าโง่ จะมีผลให้เราตาย” ฯลฯ
ร้องศาล เพนกวิน ทำผิดข้อตกลงประกันตัวหรือเปล่า โพสต์เกี่ยวโยงสถาบัน
วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสนธิญา ยื่นเรื่องให้อธิบดีศาลอาญา ไตร่ตรองในกรณีที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกรุ๊ปราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก “สาส์นแรกแห่งอิสระ” ภายหลังที่ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มาสู้คดี เพื่อให้อธิบดีศาลอาญาวิเคราะห์ว่าการปฏิบัติดังที่กล่าวมาแล้วเป็นการปฏิบัติที่ขัดกับข้อตกลงที่เจาะจงไว้ในคำขอประกันตัวหรือเปล่า
เจ้าตัวเปิดเผยว่า ที่เดินทางมาวันนี้ ในฐานะที่ตนเองเป็นพสกนิกรคนไทยคนหนึ่ง หลังได้อ่านเนื้อความนายพริษฐ์โพสต์เฟกบุ๊กแล้วรู้สึกหนักใจ รวมทั้งอาจเข้าเกณฑ์ไม่ถูกข้อตกลงการขอปล่อยตัวปล่อยใจชั่วคราว ช่วงวันที่ 11 พฤษภาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา เนื่องจากเนื้อความที่ปรากฏมีลักษณะเกี่ยวโยงสถาบัน ดังนี้ตนเองจึงได้ทำหนังสือยื่นถึงอธิบดีศาลอาญา เพื่อให้ไตร่ตรองใน 2 หัวข้อ หัวข้อแรกเป็นการตรวจสอบว่าเฟซบุ๊กที่มีการเผยแพร่เนื้อความลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วเป็นของนายพริษฐ์หรือเปล่า รวมทั้งเนื้อหาเนื้อความเข้าเกณฑ์ไม่ถูกข้อตกลงการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลหรือเปล่า เพื่อให้อธิบดีศาลอาญาใช้ดุลยพินิจเพื่อดำเนินงานต่อไป
พลังประชากรเมือง ออกตัว “สนธิญา” ไม่ใช่สมาชิกพรรค หลังยื่นสอบคนดัง Call out
กระทั่งล่าสุด นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคพลังประชากรเมือง (พปชราชการ) ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า นายสนธิญา สวัสดี มิได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชากรเมือง โดยเหตุนั้น การเคลื่อนไหวของนายสนธิญาจึงไม่มีส่วนเกี่ยวโยงพรรคพลังประชากรเมือง จากที่สื่อบางสำนักได้เกี่ยวโยง
ในตอนที่ ร.อ.ธรรมนัส พระพรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชากรเมือง กล่าวยืนยันว่า นายสนธิญา สวัสดี เคยมาลงทะเบียนสมัครสมาชิกพรรคจริง เป็นไปได้ 4 วัน ก็ลาออก เนื่องจากพบว่าเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อนกับพรรคอื่น จึงไม่ใช่สมาชิกรวมทั้งอดีตกาลผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดยเหตุนั้น การเคลื่อนไหวของนายสนธิญาจึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชากรเมือง
ส่วนหัวข้อการให้ความเห็นของพสกนิกรนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์กาญจน์ รองนายกรัฐมนตรีรวมทั้งหัวหน้าพรรคพลังประชากรเมือง ได้ให้หลักการไว้แต่แรกแล้วว่า จำต้องรับฟังความเห็นที่เป็นความมองเห็นต่างด้วย เพื่อจะนำความเห็นเหล่านั้นนำไปปรับปรุงสำหรับในการทำงาน จำต้องไม่มองดูเป็นศัตรู เสียงทักท้วงของพสกนิกรแม้ว่าเสียงเดียวเราก็จำต้องฟัง
สุดท้ายนี้ จากเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ชื่อของ สนธิญา สวัสดี เปลี่ยนเป็นเป้าโดนสาดคำถามสารพัด เช่น ทำงานให้คนใด ทำไมวันๆมัวแต่ยื่นเรื่องร้องเรียนโน่นนี่ หรือ ทำหน้าที่การงานอะไร ส่งผลประโยชน์ทับซ้อน แอบแฝงหรือเปล่า อื่นๆอีกมากมาย
ในตอนที่เฟซบุ๊กของเจ้าตัวได้โพสต์เนื้อความเจาะจงไว้ว่า ด้วยเกียรติยศรวมทั้งศักดิ์ศรีของผม ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท รวมทั้งกำลังจะเรียนในระดับปริญญาเอก มีสมอง มีแนวความคิด มีอุดมการณ์ รวมทั้งทำมากว่า 20 ปีแล้ว #ไม่จำเป็นที่จะต้องให้คนใดสั่ง ไม่ถูกชอบชั่วช้าดี รู้ครับ ถ้าหากไม่ถูก จริยธรรม จรรยา ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คดโกง โกง ให้บั่นศีรษะก็ไม่ไปครับ.