พส.พนาลัยวัลย์”ตอบโต้ “ศรีสุวรรณ” เรียนกิโลเมตรไปเพื่ออะไร
กรณี พระมหาพนาลัยวัลย์ ประกาศสึกยังคงเป็นหลักสำคัญรุนแรงบนโลกโซเชียลด้วยเหตุว่าล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการชมรมหน่วยงานรักษารัฐธรรมนูญ ได้โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่า ทรัพย์สินของวัดที่ได้มาขณะที่อยู่ภายในเพศบรรพชิตจำเป็นจะต้องเป็นของวัดเมื่อรูปภาพนั้นลาสิกขาไป ในตอนที่พระมหาพนาลัยวัลย์ โต้กลับอย่างดุเดือน โพสต์บอกว่าเสียเวล่ำเวลาไปเรียนข้อบังคับมาเพื่ออะไร
เฟซบุ๊กของ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการชมรมหน่วยงานรักษารัฐธรรมนูญ โพสต์ถึงกรณีที่ พระมหาพนาลัยวัลย์ พระนักเคลื่อนไหวโด่งดังมีกำหนดลาสิกขาว่า “ทรัพย์สินของ พส. ที่ได้มาในขณะอยู่ในเพศบรรพชิต จะต้องเป็นของวัดเมื่อรูปภาพนั้นลาสิกขา นอกจากจำหน่ายจ่ายโอนไปก่อนที่จะสละเพศบรรพชิต”
พร้อมชี้แจงอธิบายว่า ทรัพย์สินที่พระภิกษุสงฆ์ได้มาระหว่างเป็นพระภิกษุสงฆ์นั้น เป็นทรัพย์สินที่เลื่อมใสญาติโยมได้มอบไว้แก่พระภิกษุสงฆ์ ในฐานะผู้สืบทอดพุทธศาสนา ทรัพย์สินพวกนั้น ไม่ได้มอบเป็นของส่วนตัวของพระภิกษุสงฆ์
เพราะฉะนั้นจึงจัดว่าทรัพย์สินพวกนั้นไม่ใช่ของพระภิกษุสงฆ์ แม้กระนั้นเป็นของวัด และก็เมื่อตรึกตรอง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623 ประกอบกับเป้าหมายแล้วจะเห็นว่า ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคแก่พระภิกษุสงฆ์ในขณะอยู่ในเพศบรรพชิตนั้นข้อบังคับถือได้ว่าของที่ให้เพื่อทำบุญสุนทานในพุทธศาสนา ไม่ได้ให้แก่พระภิกษุสงฆ์เป็นการส่วนตัว เพราะถ้าหากไม่ใช่เป็นพระภิกษุสงฆ์ ก็จะไม่มีคนทำบุญสุนทานให้ หรือดังที่มีผู้ตั้งปัญหาว่า “ถ้าหากไม่บวชจะได้มาหรือ”
นอกจากนี้ยังโพสต์ทิ้งท้ายล่าสุดว่า“เราจะช่วยเหลือให้คนมาบวชเป็นพระเพื่อค้นหาสะสมทรัพย์สินทรัพย์สิน เมื่อได้มากมากรวมทั้งลาสิขา นำสินทรัพย์นั้นติดตัวไปเสวยสุขได้หรือ?”
เกี่ยวกับเรื่องดังที่กล่าวถึงแล้วเพจเฟซบุ๊ก “พนาลัยวัลย์ ชาติชั้นวรรณะลูก” ของพระมหาพนาลัยวัลย์ ได้แสดงความเห็นระบุว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623 ระบุว่า ทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์ที่ได้มาในระหว่างตอนที่อยู่ในเพศบรรพชิตนั้น เมื่อพระภิกษุสงฆ์นั้นถึงแก่มรณกรรมให้ตกเป็นทรัพย์สินของสงฆ์ที่เป็นรกรากของพระภิกษุสงฆ์นั้น เว้นไว้แม้กระนั้นพระภิกษุสงฆ์นั้นจะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม พร้อมทิ้งท้ายกัดแซะด้วยถ้อยคำที่ร้ายแรงทำนองว่า “เรียนข้อบังคับมาขนาดนี้ เสียเวล่ำเวลาเรียนเพื่ออะไร”
แค่นี้ยังไม่เพียงพอ พระมหาพนาลัยวัลย์ ยังโพสต์ล่าสุดอีกว่า “สึกเมื่อไร ถ้าหากพูดจามั่วๆอีก อาตมาจะเป็นข้างฟ้องลุงบ้างล่ะนะ ในเรื่องที่มีหนี้ในขณะบวชพระ ทางวัดจะต้องรับผิดชอบแทนด้วยไหม”
ในตอนที่ ทนายความเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า“นี้มันกฎมั่วแล้ว ไม่ใช่ข้อบังคับ” ทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์ ก็เป็นของภิกษุรูปนั้น หากแม้ลาสิขาไปรวมทั้งตาม ส่วนจะเป็นของวัดได้ก็เมื่อพระมรณภาพ และก็วัดรับมรดกเท่านั้น ควรเลิกมั่วหรือควรเลิกโหนก่อนกันดีครับ
นอกจากนี้ยังโพสต์ชวนขันอีกว่า“ถ้าหากเป็นอย่างที่นายศรีสุวรรณบอก ถ้าหาก พส. สึกออกมาแล้วสมบัติส่วนตัวจะต้องเป็นของวัด ถ้าเช่นนั้นนายกรัฐมนตรีลาออก หรือ ครบกำหนด ทรัพย์สินจะต้องเป็นของแผ่นดินสิครับท่าน”