เรื่องย่อ พี่นาค 2 พระบอลลูน พระเฟิร์ส แอบสึกแบบลับๆปลดปล่อยให้พระโหน่ง อยู่รับใช้ศาสนาในวัดธรรมนาคานิมิตรที่มีตำนานความสยดสยองกับสองคู่ขา สามเณรน๊อต รวมทั้ง อ๊อด แต่ว่าแล้ว บอลลูน รวมทั้งเฟิร์สก็ย้อนกลับมาที่วัดในภาวะร่อแร่ปางตาย ขอกลับมาบวชซ้ำรอบสอง หวังล้างคำแช่งที่วัดที่นี้ไม่มีใครเคยได้สึก! ทำไมพระวัดนี้ถึงสึกไม่ได้? แล้ว 2 กะเทยเพื่อนสนิท บอลลูน เฟิร์ส จะรอดถึงวันได้ห่มผ้าเหลืองหรือเปล่า?
เรื่องราวในภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคแรก ภายหลังที่ โหน่ง เฟิร์ส รวมทั้งบอลลูน ได้ล้างอาถรรพ์ห้ามบวชของ นาคนนท์ได้เสร็จ รวมทั้งบวชเป็นเพระจากที่ตั้งมั่น ถ้าว่ากิเลสก็ครอบงำ พระเฟิร์ส รวมทั้งพระบอลลูน ให้ทั้งสองตัดสินใจแอบสึกกันเอง รวมทั้งหนีออกไปจากวัด ถ้าว่าทั้งสองก็ไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างเงียบๆ เพราะวิญญาณของนาคตนใหม่ได้ตามหลอก รวมทั้งจ้องสังหารทั้งสอง ทำให้ เฟิร์ส รวมทั้งบอลลูน ต้องกลับมาที่วัดเพื่อจะบวชแก้คำแช่งอีกที ซึ่งครั้งนี้ก็ได้มี โท ไม่น จุน ซุปเปอร์สตาร์บอยแบนด์หน้าใหม่มาแรง ได้เข้ามาบวชที่วัดที่นี้จากที่แม่ของเขาบนไว้อีกด้วย เรื่องวุ่นๆครั้งใหม่ในวัดธรรมนาคานิมิตร ก็ได้เริ่มขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นหนังที่สามารถหาจุดเชื่อม รวมทั้งเล่นกับกิมมิคของเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม โดยจากเหตุใน พี่นาค 1 มาถึง พี่นาค 2 หนังสามารถเดินเรื่องให้คนดูมีความรู้สึกว่ายังเป็นหนังเรื่องเดียวกันได้ลงตัว ไม่ว่าจะได้แก่การใช้ผู้แสดงนำชุดเดิม ซึ่งในภาคนี้เราก็ได้มองเห็นวิวัฒนาการทั้งการแสดง รวมทั้งหน้าที่ของพวกเขาที่กระจ่าง รวมทั้งการสร้างเล่นกับบรรยากาศของสงฆ์ธรรมนาคานิมิตร ที่โดยมากเป็นโลเคชั่นเดิม แต่ว่าในภาคนี้กลับให้บรรยากาศที่หลอนมากกว่าภาคแรกพอเหมาะพอควร
หนังมีหลายๆส่วนที่มีการวิวัฒนาการที่ขัดเจนถ้าเกิดเทียบกับภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเฮี้ยน ความน่าสยองของผีอ้ายสน ในเรื่อง ที่นอกเหนือจากการที่จะเต็มไปด้วยแรงพยาบาทที่คูณสองจากนาคนนท์แล้ว ความสามารถของผู้แสดงนี้ก็ยังป่าเถื่อน รวมทั้งทรงประสิทธิภาพมากกว่า ฉากไฮไลท์ ที่เด็ด รวมทั้งชักชวนหลอนมากๆคือฉากแข่งขันบทสวดมนต์ระหว่่างสามเณรน็อต รวมทั้งผีอ้ายสน ที่ทั้งตื่นเต้น ทั้งลุ้น รวมทั้งหลอน ไปในขณะเดียวกัน
อีกด้านที่หนังในภาคนี้ค่อนข้างทำออกมาเจริญคือพาร์ทดราม่า ที่ในภาคนี้ค่อนข้างหนักแน่นกวาภาคที่แล้วมาก ไม่ว่าจะเป็นดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้แสดงหลักจากภาคที่แล้ว ที่ในภาคนี้เราจะได้มองเห็นผู้แสดงกลุ่มนี้มีอารมณ์ มีความรู้สึกมากกว่าเดิม ซึ่งการแสดงที่ขอชื่นชมคือบทของ เอม-วิทวัส ในบท บอลลูน ที่ในภาคนี้นอกจากบทเฮฮา โวยวาย แล้ว เรายังจะได้มองเห็นบทร้องไห้ ที่บทอารมณ์ที่หนักกว่าภาคแรก ผู้ใดที่เคยชื่นชอบในผู้แสดงบอลลูนในภาคก่อน จะชื่นชอบในผู้แสดงนี้ยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย นอกจากนี้บทผีอ้ายสน ที่แสดงโดย ธามไท แพลงศิลป ก็สามารถถ่ายทอดบทผีให้เรารู้สึกกลัว รวมทั้งบทดราม่าที่ทำเอาคนดูสะเทือนใจได้เช่นกัน
งาน CGI ในประเด็นนี้จัดว่าทำออกมาเจริญยิ่งขึ้นกว่าภาคแรกไม่น้อย หนังยังสามารถประดิษฐ์ฉากพญานาค ออกมาได้วิจิตรตระการตา หรูหรา ในขณะฉากโชว์พลังความเฮี้ยนของอ้ายสน ก็ทำออกมาได้น่าสยอง รวมทั้งสมจริงสมจัง เรียกได้ว่าในฐานะหนังไทย พี่นาค 2 ถือได้ว่าอีกเรื่องที่มี CGI คุณภาพดีที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้
แต่ว่าถึงกระนั้น พี่นาค 2 ก็ยังมีจุดบกพร่องที่เป็นปัญหาของหนังคอเมดี้ ที่ว่าด้วยเพศที่ 3 โดยมาก ไม่ว่าจะเป็นมุกเฮฮาที่บากบั่นเล่นกับร่างของเพศชาย รวมทั้งฉากมุกเฮฮาโวยวายในตอนต้นเรื่อง ที่ทำให้หนังมองชุลมุน วุ่นวาย จนถึงค่อนข้างจะน่ารำติดอยู่ณในหลายๆช่วง นอกจากนี้ยังมีฉากที่เล่นกับพฤติกรรมชักชวนเสี่ยงของ พระ รวมทั้งสามเณร ที่ต้องวิ่งหนีผี บางฉากหนังก็สามารถทำให้เราขำได้ แต่ว่าหลายๆฉากก็ออกมาคริเช่ ขาดความแปลกใหม่ และไม่สามารถทำให้เราเอนจอยไปกับมุกนั้นๆได้แม้แต่น้อย
นอกจากมุกเฮฮาที่ไม่ตลกแล้ว อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ๆของหนังประเด็นนี้ คือการใส่ผู้แสดงที่มาก จนถึงเกินจำเป็น โดยจากเดิมที่สมาชิกในวัดมีเพียงโดยประมาณ 5-6 คน (รวม 3 ผู้แสดงนำของเรื่อง) แต่ว่าภาคนี้หนังได้เพิ่มผู้แสดงใหม่ ทั้งสามเณร ทั้งลูกศิษย์วัด ทำให้ในภาคนี้มีตัวละครที่้เป็นสมาชิกในวัดร่วมเกือบจะๆ10 คน แต่ หนังกลับใช้งานตัวละคชุดใหม่ออกมาได้ไม่คุ้ม ด้วยมิติตัวที่ขาดแหล่งที่มา รวมทั้งไม่มีซึ่งมิติ นอกจากหน้าที่สำหรับในการร่วมเผชิญชะตากรรมความสยดสยองแล้ว ผู้แสดงหน้าใหม่กลุ่มนี้ก็ไม่มีสิ่งใดให้น่าจดจำแม้แต่น้อย
โดยรวม พี่นาค 2 ถือได้ว่าหนังภาคต่อของไทย ที่จัดว่าทำออกมาเจริญในระดับหนึ่งเลย หนังสามารถเชื่อมเรื่องราวจากภาคแรก รวมทั้งภาคสองออกมาได้ลงตัว หนังมีวิวัฒนาการที่เห็นได้ชัดในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความสนุกสนานที่ทำออกมาได้คูณสอง ผู้ใดที่เคนถูกใจภาคแรก อาจชื่นชอบในภาคนี้มากกว่า แต่ว่าสำหรับผู้ใดที่ยังไม่ได้มองภาคแรก แต่ว่าต้องการข้ามมาดูภาคนี้ก่อน ก็สามารถมองได้ทราบเรื่อง แต่ว่าอาจมีรายละเอียดบางส่วน หรือบางมุกที่ดูแล้วไม่เก็ตไปกับหนัง
