หลังจากที่อดีตกาลเมีย กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกมาโพสต์คลิปเพื่อทวงลูกคืนจากอดีตกาลสามี ชายหนุ่ม ศรราม เทวดาป้องกัน โดยเจ้าตัวกล่าวว่า วิวัฒนาการของลูกสาวนั้นช้าเหลือเกิน ทั้งยังยังได้ไลฟ์สดเปิดโปงอดีตกาลสามีแบบจุกๆอีกหลายเรื่อง

งานนี้ ชายหนุ่ม ศรราม เทวดาป้องกัน ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับอีจัน ถึงกรณีที่คนจำนวนไม่น้อยกำลังสนใจของครอบครัวนี้ว่า

“เรื่องวิวัฒนาการของวีจินะครับผม ก่อนหน้านี้ผมก็ดำเนินการแล้วหลังจากนั้นก็คอยพิจารณาครับ ในเรื่องของใครเขาก็บอกว่าทำไมถึงยังบอกไม่เป็นคำ ก็เลยได้ไปพบกับคุณหมอนพชนชั้น ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ครับผม

sornram1

ซึ่งคุณติ๊กก็ไปด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นก็ได้รับข้อเสนอแนะจากคุณหมอมาแล้วว่าให้ฝึกฝนความถนัดยังไง หรือเพิ่มยังไง เพื่อที่จะให้วีจิบอกได้เป็นคำมากยิ่งขึ้นครับผม
เราก็กลับมากระทำตามในสิ่งที่คุณหมอเสนอแนะ ซึ่งคุณหมอนพชนชั้น ก็จะนัดอีกครั้งวันที่ 22 เดือนพฤษภาคม ครับผม คุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำเพิ่มด้วยครับผม ว่าวีจิมีวิวัฒนาการทั้งยังเรื่องของร่างกาย เรื่องภาษากายครับ
ไม่ว่าจะเป็น กิฟมีไฟว์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางภาษากายดีนะครับผม ดีเลิศๆเพียงแต่บางครั้งก็อาจจะต้องเพิ่มวิวัฒนาการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบอกครับผม”

เขากล่าวว่าพี่ชายหนุ่มใจดำไม่ให้เจอลูกให้เจอลูกน้อยไป?

“ผมต้องขอญาตเรียนอย่างงี้ว่า ในพื้นฐานเนี่ย ผมให้ท่านติ๊กมาพบลูกเดือนละสองครั้งครับ แล้วหลังจากนั้นก็สำหรับการเจอแต่ละครั้งก็มีการเปลี่ยนเกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากฝั่งคุณติ๊ก
ไม่ว่าจะเป็นการร้องมูลนิธิ หรือให้ไปเจอทางหน่วยงานภาครัฐต่างๆแล้ว คุณติ๊กก็ไม่พอใจเอง ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากตัวคุณติ๊กเองครับ คราวนี้ก็กลับมาคุยกันใหม่ ผมเองก็ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว
ก็ต้องการที่จะให้คุณติ๊กได้มีโอกาสเจอลูกได้มากขึ้น ผมก็ขยับระยะเวลาให้ท่านติ๊กได้พบลูก เดือนละสี่ครั้งก็พอๆกับสัปดาห์ละหนึ่งครั้งครับ ก็โดยมีการนัดพบจัดว่าให้เจอวันแล้ววันเล่าเสาร์
แต่ว่าถ้าหากว่าวันเสาร์นั้นติดธุระหรือคนไหนมีอะไรต้องไปทำ ก็จำเป็นจะต้องขอเลื่อนไปเจอวันอื่น แต่ว่าอย่างต่ำสัปดาห์ละหนึ่งครั้งได้เจอ เรื่องตรงนี้ผมเอง คุณติ๊กเอง ที่ปรึกษาทางกฎหมาย รับรู้กันหมดทั้งหมดทุกอย่างแล้วครับผม
หัวข้อการพบลูกครับ ในพื้นฐานพบกันที่ร้านอาหารที่เราทานกันบ่อยๆครับผม แล้วหลังจากนั้นก็ไปพบตามหน่วยงานที่คุณติ๊กร้องมา
เมื่อคุณติ๊กปฏิเสธ เราก็กลับมาพบกันที่ร้านอาหารดังเดิม ผมเองเห็นว่ามันจะเป็นการรบกวนสถานที่ของเขา เนื่องจากเขาก็อยู่ในระหว่างการปรับแต่งร้านค้า ผมเองก็มีคอนโดอยู่ ก็เลยได้คิดว่าไปพบกันที่คอนโดดียิ่งกว่า
ก็ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำกับที่ปรึกษาข้อบังคับว่าให้ท่านติ๊กมาหาลูกที่คอนโด มันจะได้สะดวกสบายมากเพิ่มขึ้น ซึ่งก็มีการไปพบกันมีนาคมครับ วันที่พาวีจิไปหาหมอร่วมกัน
เมื่อไปหาหมอเสร็จแล้วคุณติ๊กก็ขอพาลูกไปเซ็นทรัล ผมก็อนุญาต พอผมอนุญาตเสร็จคุณติ๊กก็โทรไปยืมสตางค์เพื่อนกระทั่งเพื่อนคนนั้นเนี่ยก็โทรมาทวงกับผม แล้วผมก็ต้องให้เขาครับ
จากนั้นต่อมาครับผม ก็เป็นสัปดาห์ต่อมา ผมก็ให้ที่ปรึกษาข้อบังคับแจ้งคุณติ๊กไปตั้งแต่วันพุธครับผม วันพุธต่อมาก็คือวันที่ 23 หรือ 24 ว่าสัปดาห์ต่อไปเนี่ย เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ เราจะไม่อยู่ เราจะไปเขาใหญ่
ก็ขอเลื่อนคุณติ๊กมาเจอลูกวันอังคาร ซึ่งคุณติ๊กก็เกิดความไม่ถูกใจอย่างยิ่ง ก็ส่งข้อความมาหาในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมครับกล่าวว่า เขาไม่เอาลูกแล้ว เขายกลูกให้ผมดูแล แล้วเขาก็ขอบล็อกทุกคน”

เขาเรียกร้องว่าให้เขาเจอลูกบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ตอนวันเกิดลูกเขาไม่ได้คุยกับลูกเลย ซึ่งคนเป็นแม่บอกเสียใจมาก?

“ที่กล่าวว่าวันเกิดลูกเป็นวันสำคัญก็คือวันที่ 8 เมษายน หรือวันเกิดของเขาคือวันที่ 13 เมษายน ทำไมถึงไม่ให้เขาเจอลูกหรืออะไร ผมก็ต้องขอเรียนอย่างงี้
ในเมื่อเขาไม่เอาลูกแล้วเนี่ย ผมก็ต้องก้มหน้าก้มตาดูแลลูกของผมต่อไป อย่างที่ผมบอกครับผม คือผมตั้งใจดำเนินการดูแลแม่ เลี้ยงลูกให้ดี
ในเมื่อคุณติ๊กมีความมั่นหมายที่จะไม่เอาลูกแล้ว แล้วจู่ๆจะให้ผมโทรไปเพื่อเขามาเจอลูกก็คงจะไม่ใช่ ส่วนลำดับที่สองคือว่าในวันที่ 13 เมษายน วันสงกรานต์ครับผม คนดูแลของวีจิ พี่อ้อยก็ลากลับบ้านที่ร้อยเอ็ดครับผม
อันนี้คือสิ่งที่อยากจะอธิบาย เนื่องจากว่าในเมื่อเขาไม่ได้อยากลูกแล้วเนี่ย เราจะไปวิงวอนอะไรเพิ่มก็อาจไม่ใช่เรื่องครับ แต่ว่าเรามีบทบาทดูแลวีจิอยู่แล้ว เราก็จะดูแลกันเต็มกำลังดังเดิมครับผม”

รู้ไหมขาว่าทางอดีตกาลเมียมีไลฟ์สดพูดถึงเรา?

“ต้องบอกอย่างงี้ครับผมว่า ผมเองเนี่ยไม่รู้จักครับ ไม่รู้จักข้อมูลแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เอาใจใส่ด้วยครับผม เนื่องจากว่าตนเองก็ดำเนินการครับ รวมทั้งระยะนี้เป็นช่วงโควิดก็มานะอยู่กับลูกมากๆขอรับ”

ทางเขาบอกเรื่องที่ว่าเราติดเหล้าด้วย ตรงนี้พี่ชายหนุ่มจะอธิบายว่ายังไงขา?

“ผมต้องขอเรียนอธิบายอย่างงี้ครับว่า ผมเป็นพ่อคนแล้วครับ อายุขนาดนี้แล้วครับ ผมรู้ดีว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรควรจะทำ อะไรไม่สมควรที่จะทำครับผม”

เขากล่าวว่าเดี๋ยวนี้เขาพร้อมจะเลี้ยงลูกแล้ว เขากล่าวว่าจะปล่อยให้เขาดูแลลูกได้ไหม?

“ผมต้องเรียนอย่างงี้ครับผม ว่าทั้งหมดทุกอย่างเรากระทำตามหน้าที่ครับ ก็คือหน้าที่คือว่าในบันทึกในใบหย่า บันทึกหลังใบหย่า ได้บันทึกไว้หมดแล้วว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะดูแลวีจิแต่เพียงผู้เดียวครับ
แล้วหลังจากนั้นก็หน้าที่ผมคืออนุญาตให้ท่านติ๊กมาเจอลูกเพียงแค่นั้น แต่เพียงแต่ว่าคุณติ๊กได้บอกความมั่นหมายของตนมาแล้วว่า เขาไม่ได้อยากลูก เขายกลูกให้ผมมาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมแล้วครับ
ด้วยเหตุนี้ผมก็จะกระทำตามในสิ่งที่เป็นความมุ่งหวังของคุณติ๊ก แล้วหลังจากนั้นก็อยากจะกล่าวว่าเอกสาร หรืออะไรต่างๆหรือรายละเอียดต่างๆผมก็ได้เก็บให้หมดทั้งหมดทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยหมดแล้วครับผม”

มีการวางแผนหัวข้อการอุปถัมภ์ค้ำชูลูกต่อไปอย่างไรบ้าง?

“เราก็คงจะดูแลเขาอย่างดีที่สุดครับ เราก็อยากจะกล่าวว่าวีจิเนี่ยเขามีที่ปรึกษาเป็นคุณหมอทั้งสิ้นครับ แล้วหลังจากนั้นก็อยากจะกล่าวว่าที่ทุกคนเป็นห่วงเรื่องคนดูแล ผมอยากจะกล่าวว่าไม่ว่าจะเป็นคนดูแลวีจิ หรือเป็นคนดูแลคุณแม่ของผมครับ
ผมจะกล่าวว่าเขาผ่านงานมาไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 15 ปีนะครับผม จากเนอสเซอรี ซึ่งเนอสเซอรีที่นี้ของเพื่อนผมที่เรียนเซนต์คาเบรียลกับผมมาตั้งแต่ เปรียญ1 ครับ
เราเป็นเพื่อนกันกว่าเกือบจะๆจะ 40 ปีแล้วครับผม เขาผ่านงานตรงนั้นมา ดำเนินการแล้วหลังจากนั้นก็มีที่ว่ามีหลักในการทำงานที่ถูกอยู่แล้ว นั่นคือผลของพี่เลี่ยงที่คนจำนวนไม่น้อยเป็นห่วงครับ
รวมทั้งในตอนที่วีจิมีวิวัฒนาการ บางครั้งก็อาจจะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบอกช้าหน่อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวอะไรที่เป็นกำลังดวงใจแล้วโพสต์มาไม่ว่าจะเป็นในเฟซบุ๊กของผม ยูทูบ อินสตามึงรม ถ้าหากอะไรเป็นกำลังดวงใจหรือเป็นการพูดจา เป็นการเขียนคอมเมนต์ด้วยความปรารถนาดี ผมกราบขอบพระคุณมากๆ
แต่ว่าหากว่าผมอ่านดูแล้วคอมเมนต์ใดๆก็ตาม ไม่ได้เกิดคุณประโยชน์กับผม วีจิ หรือครอบครัวของเรา ผมก็จะลบคอมเมนต์นั้น แล้วหลังจากนั้นก็จะบล็อก เนื่องจากผมจัดว่าไม่ใช่สิ่งที่มีความจำเป็น รวมทั้งจะทำให้ผมกับลูกไปในทางที่ดีนะครับผม
ก็ต้องขอขอบคุณครับ ทุกๆพลังใจที่ส่งเข้ามาให้ ถ้าหากว่ามีคุณประโยชน์ ไหว้พระคุณมาก แต่ว่าถ้าหากเป็นการทำลายกันหรือทำให้เราสุขภาพย่ำแย่จิตในตอนที่เราเลี้ยงลูกผมก็ต้องขอลบใจความนั้น แล้วหลังจากนั้นก็ขอบล็อกไปครับ ขอบพระคุณมากๆครับผม”

sornram2