ส่องสถิติหลังเกมที่ “ทีมชาติอังกฤษ” เปิดรังกระหน่ำเอาชนะ “ทีมชาติอันดอร์รา” กินขาด 4-0 ในศึกบอลโลก 2022 รอบเลือกเฟ้น โซนยุโรป กลุ่มไอ นัดหมายที่ 5
วันที่ 6 เดือนกันยายน 64 การเปลี่ยนแปลงหลังเกมที่ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การนำทีมของ แกเรธ เซาธ์เกต เปิดสนามเวมบลีย์ ไล่กระหน่ำเอาชนะ ทีมชาติอันดอร์รา ที่มี เชซุส หลุยส์ จับบังเหียน กินขาด 4-0 ในศึกบอลโลก 2022 รอบเลือกเฟ้น โซนยุโรป กลุ่มไอ นัดหมายที่ 5 เมื่อเวลากลางคืนก่อนหน้าที่ผ่านมา
ทั้งนี้เกมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเจ้าถิ่นได้ 4 ประตูจาก เจสซี ลินการ์ด นาทีที่ 18, 78 ที่เหลืออีกสองลูกนั้นแบ่งให้ได้ผลสำเร็จงานของ แฮร์รี เคน ที่ซัดจุดลูกโทษนาทีที่ 72 ก่อนจบท้ายด้วย บูกาโย ชากา ในนาทีที่ 85 ของเกมการแข่งขันชิงชัยจาก 3 แต้มดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นในเกมนี้ทำให้พวกเขามี 15 คะแนน จากการลงสู่สนาม 5 นัดหมาย นำโด่งเป็นผู้นำฝูงถัดไป ทิ้งห่าง ทีมชาติประเทศโปแลนด์ ทีมรองผู้นำฝูง 5 คะแนนร่วมกัน
– ทีมชาติอังกฤษ เก็บคลีนชีตได้ 11 นัดหมาย จาก 14 เกม ในปี 2564 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในปีปฏิทินเดียว
– บูกาโย ชากา เป็นผู้เล่นคนแรกของ อาร์เซนอล ที่ทำแต้มและแอสซิสต์ในเกมเดียวกันที่เวมบลีย์ ให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ เบื่อ ไรท์ ที่เคยทำเป็นในเกมพบกับ มอลโดวา เมื่อก.ย. ปี 1997
– บูกาโย ชากา เป็นผู้เล่นแรกที่ยิงประตูในวันเกิดของตนเองให้กับทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ นับจาก สตีเวน พบร์ราร์ด เคยทำไว้ภายในเกมพบ ฮังการี เมื่อพ.ค. ปี 2006
– เจสซี ลินการ์ด ทำแต้มให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ได้มากพอๆกับจำนวนการลงเล่น 16 นัดหมายที่ผ่านมาจากทุกรายการในชื่อทีมชาติ
– แฮร์รี เคน แปลงเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ที่ทำเป็นมากกว่า 40 ประตูให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ขณะที่จุดลูกโทษของเขาทำให้เขาแปลงเป็นผู้ที่ทำประตูสูงสุดอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ของประเทศร่วมกับ ไมเคิล โอเวน
– เจสซี ลินการ์ด ทำแต้มแรกให้กับ ทีมชาติอังกฤษ นับจากพฤศจิกายน ปี 2018 กับโครเอเชีย หรือนับเป็น 1,022 วันก่อน.