55

อัพเดทล่าสุด! แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” เวอร์ชั่นปัจจุบัน (4 ม.ค. 64) ขออนุญาตเข้าถึง “ข้อมูลส่วนบุคคล” อะไรบ้าง หลังเกิดกระแสกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และมีการแชร์ข้อมูลเก่าเมื่อปีที่แล้ว

ภายหลังเกิดการระบาดของวัววิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย ศูนย์บริหารเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรที่นา 2019 (ศบค.) ได้ประกาศขอความร่วมมือให้ประชากรให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” เพื่อความสะดวกสำหรับเพื่อการติดตามข้อมูลการเดินทางของประชากรในเรื่องที่ติดโรค และถ้าเกิดคนป่วยที่มีสมาร์ทโฟนรองรับ แต่มิได้ดาวน์โหลดแอพหมอชนะและปกปิดข้อมูลจะจัดว่ามีความผิด ทำให้คนไทยจำนวนหลายชิ้นกลับมาให้ความสนใจแอพ หมอชนะ กันอีกรอบ
แม้กระนั้น กระแสตื่นตัวนี้มาพร้อมกับความตื่นตระหนก เนื่องมาจากคนไม่ใช่น้อยหวั่นเกรงว่า แอพพลิเคชั่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินความจำเป็นไหม

นอกเหนือจากนี้ ในโลกออนไลน์ยังมีการแชร์อินโฟกราฟฟิกจากรายงานที่กรุงเทวดาธุรกิจเผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่ผ่านมา ชื่อ ทราบยัง ‘หมอชนะ/MorChana’ ชนะ! เรื่องเข้าถึง ‘ข้อมูลส่วนบุคคล’ ซึ่งอ้างอิงจากผลของการวิจัยชื่อ “Privacy Sweep” เกี่ยวกับ “แอพพลิเคชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตามประชากร” ใน 6 ประเทศอาเซียนรวมทั้งไทย เมื่อเดือน เดือนพฤษภาคม 2563 ที่จัดทำโดย ดาต้า โปรเทคชัน เอ็กเซลเลนซ์ (Data Protection Excellence) หรือ DPEX โครงข่ายด้านการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์

ในช่วงเวลานั้น ผลที่ได้รับจากการวิจัยดังที่ได้กล่าวมาแล้วซึ่งอิงจากการขอเข้าถึงข้อมูลของแอพหมอชนะ เวอร์ชั่น 1.4 (19 เม.ย. 2563) พบว่า หมอชนะเป็นแอพพลิเคชั่นติดตามประชากรที่ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเยอะที่สุด เมื่อเทียบกับแอพของเพื่อนบ้านอีก 5 ประเทศ

นอกเหนือจากนี้ยังพบว่า หมอชนะขอเข้าถึงส่วนต่างๆในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ใช้ ตั้งแต่ กล้องถ่ายสำหรับภาพ, ประวัติการใช้งานเครื่องมือและแอพ, ตำแหน่งผู้ใช้, ไมค์, คลังรูปภาพ/คลิป/ไฟล์อื่นๆ, พื้นที่เก็บข้อมูล และข้อมูลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ Wi-Fi
แม้กระนั้น หมอชนะ เวอร์ชั่น 2.0.1 (4 เดือนมกราคม 2564) มีการปรับเปลี่ยนเรื่องการขอเข้าถึงและการจัดเก็บข้อมูลแล้ว กรุงเทวดาธุรกิจออนไลน์ เชื้อเชิญไปอัพเดทข้อมูลกันอีกรอบว่า เวอร์ชั่นตอนนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
จากการตรวจดู “สิทธิ์ของแอพ” สำหรับเพื่อการขอเข้าถึงข้อมูลของหมอชนะ เวอร์ชั่น 2.0.1 ที่ระบุบนหน้าดาวน์โหลดแอพบน Google Play Store พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากเท่าไรนัก โดยหัวข้อเดียวที่หายไปจากเวอร์ชั่นเมื่อปีที่ผ่านมาคือ Record audio หรือการขอเข้าถึงไมค์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งตอนนี้ไม่มีอยู่แล้ว

ส่วนหัวข้ออื่นๆที่แอพหมอชนะเคยขอเข้าถึงในเวอร์ชั่นเก่าเมื่อปีที่ผ่านมาก็ยังคงมีอยู่ เป็นต้นว่า กล้องถ่ายสำหรับภาพ, ประวัติการใช้งานเครื่องมือและแอพ (เวอร์ชั่นนี้ใช้คำว่า เรียกแอพพลิเคชั่นสถานที่ทำงานอยู่), ตำแหน่งผู้ใช้, คลังรูปภาพ/คลิป/ไฟล์อื่นๆ, พื้นที่เก็บข้อมูล และข้อมูลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย (เวอร์ชั่นนี้ใช้คำว่า ดูการเชื่อมต่อโครงข่าย)
ตอนที่เพจเฟซบุ๊ค หมอชนะ โพสต์แจกแจงตอนวันที่ 7 เดือนมกราคม ว่า แอพหมอชนะเวอร์ชั่นตอนนี้ ขอเข้าถึงส่วนต่างๆของสมาร์ทโฟน เพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้

56

57

1. กล้องถ่ายภาพ (Camera)
เพื่อใช้สำหรับเพื่อการถ่ายภาพของผู้ใช้งาน เพื่อการันตีว่าแอพนั้นเป็นของผู้ใช้งานจริง และใช้สำหรับเพื่อการสแกน QR Code ของ ไทยชนะ เพื่อกระทำเช็คอินสถานที่

2. ตำแหน่งผู้ใช้ (Location)
เพื่อติดตามเส้นทางของผู้ใช้แอพ ซึ่งจะเป็นวัสดุให้กรมควบคุมโรคใช้ประกอบสำหรับเพื่อการสืบสาวโรค และใช้สำหรับเพื่อการค้นหาว่า ผู้ใช้แอพอยู่ในสถานที่เสี่ยงในตอนวันและเวลา ร่วมกับผู้ติดโรคไหม เพื่อกรมควบคุมโรคจะได้ส่งข้อความแจ้งเตือน

3. คลังรูปภาพ (Picture)
แอพจะเก็บภาพถ่ายของผู้ใช้งานไว้ที่เครื่องของผู้ใช้งานเอง และจะไม่มีการเก็บภาพถ่ายไว้ที่ Server ส่วนกลางของระบบอะไร

4. พื้นที่เก็บข้อมูล (Store)
ในเรื่องที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่นจะเก็บข้อมูลเส้นทางการเดินทางเอาไว้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อน เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว แอพจะส่งข้อมูลไปจัดเก็บที่ระบบส่วนกลาง
ดังนี้ ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ และอื่นๆในแอพพลิเคชั่นและระบบส่วนกลาง ในทุกกรณี
ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัว แอพหมอชนะไม่ขอข้อมูลส่วนบุคคลอะไรก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน การลงทะเบียนเป็นแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous) และมีการจัดตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจดูกรรมวิธีการจัดแจงข้อมูล ให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติ คุ้มครองปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

58

ข้อตกลงการจัดเก็บข้อมูลของหมอชนะคือ เมื่อผ่านวิกฤติการณ์วัววิด-19 แล้ว ข้อมูลทั้งสิ้นจะถูกทำลายทิ้งในทันทีทั้งยังการรหัสแอพยังมีลักษณะเป็น โอเพ่นซอร์ส (Open Source) เพื่อให้โปร่งใส ตรวจดูได้ และง่ายต่อการส่งต่อไปยังระบบอื่นๆเพื่อขยายผลถัดไปอีกด้วย

สำหรับแอพ หมอชนะ ถือกำเนิดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐนำโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (หน่วยงานมหาชน) หรือ สพร. และกระทรวงสาธารณสุข กับภาคเอกชน นำโดยกรุ๊ปผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์อิสระ ในชื่อ “Code for Public” และกรุ๊ปผู้ที่มีความชำนาญด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์