www.เราชนะ.com ประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติ ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก 6,000 บาท 19 มี.ค.64

วันที่ 15 มี.ค.64 นางสาวกุลยา ตันตำหนิเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความก้าวหน้า “แผนการเราชนะ” สำหรับการคัดเลือกกรองคุณลักษณะ สำหรับประชากรกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นพิเศษที่สมัครสมาชิกเข้าร่วมแผนการ ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 5 มี.ค. 2564 ว่า ประชากรกลุ่มดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถพิจารณาสถานะการคัดเลือกกรองคุณลักษณะได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกกรองคุณลักษณะจะได้รับวงเงินสิทธิ์คราวแรก ปริมาณ 6,000 บาท ในวันที่ 19 มี.ค. 2564 รวมทั้งสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วผ่านบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ถึงที่เหมาะผู้ประกอบกิจการร้านขายของรวมทั้งผู้ให้บริการที่เข้าร่วมแผนการฯ
นางสาวกุลยา เน้นว่า สำหรับผู้ประกอบกิจการร้านขายของรวมทั้งผู้ให้บริการที่พอใจเข้าร่วมแผนการฯ สามารถสมัครเข้าร่วมแผนการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มี.ค. 2564 โดยสามารถศึกษาเล่าเรียนรายละเอียดอื่นๆได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือติดต่อสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
นอกเหนือจากนั้น โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเสริมเติมถึงความก้าวหน้าของแผนการฯ ณ วันที่ 15 มี.ค. 2564 ดังนี้
1. ประชากรกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปริมาณ 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา ปริมาณ 49,451 ล้านบาท
2. ประชากรกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในแผนการเราท่องเที่ยวด้วยกันรวมทั้งคนละครึ่ง รวมทั้งกลุ่มประชากรทั่วๆไปที่สมัครสมาชิกทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดเลือกกรองคุณลักษณะเบื้องต้นรวมทั้งรับรองการใช้สิทธิ์ร่วมแผนการฯ แล้ว ปริมาณ 16.6 ล้านคน รวมทั้งมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา ปริมาณ 66,804 ล้านบาท
3. ประชากรกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดเลือกกรองคุณลักษณะแล้ว ปริมาณ 0.5 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2564 เป็นต้นมา ปริมาณ 2,049 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในแผนการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นปริมาณ 30.8 ล้านคน คิดเป็นค่าการใช้จ่ายหมุนวนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 118,304 ล้านบาท
ซึ่งได้แก่การใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบกิจการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจเขตแดนที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านขายของคนละครึ่งที่ตกลงยอมเข้าร่วมแผนการฯ รวมถึงผู้ประกอบกิจการร้านขายของรวมทั้งผู้ให้บริการที่สมัครสมาชิกเข้าร่วมแผนการฯ ปริมาณทั้งสิ้นมากยิ่งกว่า 1.2 ล้านธุรกิจการค้า.