เปิดหลักเกณฑ์ “Phuket Sandbox” (จังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์) โปรเจคนำร่องสู่การเปิดประเทศ ซึ่งคิกออฟตอนวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม นักเที่ยวอีกทั้งไทยรวมทั้งต่างประเทศควรมีคุณสมบัติรวมทั้งจัดแจงเช่นไร อีกทั้งก่อนเข้ารวมทั้งขณะอยู่ในจังหวัดภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวหลักของไทย
“จังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox) นับว่าเป็นโครงการนำร่องสู่การเปิดประเทศใน 120 วันเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ตามการประกาศของ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“ถ้าเกิดเราทำจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ได้ เราก็จะขยายไปที่อื่นได้ วันนี้ผมก็สั่งวิถีทางว่าจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์จะเอาไปใช้เป็นแซนด์บ็อกซ์ที่อื่นอีกได้ไหม ในทุกภาคที่มีการท่องเที่ยวมันต้องไปทีละขั้นทั้งหมดทุกอย่าง มันควรมีการเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ เราต้องเร่งรัดจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ก็เพราะมีสมรรถนะอยู่แล้วรวมทั้งมีพื้นที่ควบคุมได้” พล.อำเภอประยุทธ์ กล่าวเปิดแผนการจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ตอนวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม
ในตอนที่จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัด รองรับการเปิดเมือง จังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ความน่าสนใจของแผนการนี้เป็น นักเดินทางที่ร่วมจะได้ท่องเที่ยวข้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแบบไม่ต้องกักบริเวณอย่างน้อย 14 คืนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เดินทางออกท่องเที่ยวพื้นที่อื่นในไทย
แต่คนที่จะเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ได้นั้น ควรมีข้อตกลงรวมทั้งคุณสมบัติอย่างไรบ้าง กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้แล้ว
ประเทศใดบ้างที่เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้
ประเทศ/ดินแดน ที่นักเดินทางสามารถไปสู่ จังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีแล้วกว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ณ 30 ไม่.ย. 64) ซึ่งรวมทั้งประเทศออสเตรเลีย เบลเยียม บรูไน เขมร แคนาดา จีน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิสราเอล อิตาลี ลาว ภรรยานมา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ประเทศนอร์เวย์ โปรตุเกส กาตาร์ รัสเซีย สิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ สเปน ประเทศสวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ยูเออี สหราชอาณาจักร สหรัฐ เวียดนาม ฮ่องกง มาเก๊า รวมทั้งไต้หวัน
ส่วนญี่ปุ่น จังหวัดภูเก็ตยังรับเฉพาะนักธุรกิจที่จะมาเจรจาติดต่อธุรกิจแค่นั้น
สำหรับนักเที่ยวที่จะเดินทางเข้า จังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีเงื่อนไขต่างๆนาๆแยกตามจำพวกรวมทั้งเป้าประสงค์ของการเดินทาง
“มาจากต่างประเทศ” อยากได้ “เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต” ทางท่าอากาศยาน
มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ตของคนประเทศอื่นรวมทั้งคนประเทศไทย ผู้เดินทางควรมีคุณสมบัติรวมทั้งปฏิบัติ ดังนี้
1) ควรเป็นคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการเสี่ยงต่ำหรือการเสี่ยงปานกลาง ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด
ดังนี้ กรณีเดินทางจากประเทศอื่น ต้องพักพิงอยู่ในประเทศที่กำหนดข้างต้นอย่างน้อย 21 วัน ก่อนที่จะมีการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต
2) ควรมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry – COE)
คนประเทศไทยรวมทั้งคนประเทศอื่นที่อยากได้ลงทะเบียน Sandbox สามารถลงทะเบียนรับหนังสือที่พักว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry – COE) เหมาะ https://coethailand.mfa.go.th/
เพียงแค่ตระเตรียมเอกสารทั้งหมดทุกอย่างให้พร้อม ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับการอนุมัติเข้าประเทศไทย
– ตัวอย่างหนังสือ COE สำหรับนักเที่ยวเข้าจังหวัดภูเก็ต –
3) ต้องได้รับวัคซีนตามที่มีการกำหนดของประเทศไทยครบ 2 เข็ม หรือตามข้อกำหนดของแต่ละวัคซีน อย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง รวมทั้งมีเอกสารยืนยันการได้รับวัคซีน (Vaccine Certificate)
กรณีเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี สามารถเดินทางเข้ามาพร้อมกับผู้ปกครองได้
– กฎเกณฑ์เรื่องการฉีดวัคซีนสำหรับผู้เดินทางจากต่างแดนเข้าจังหวัดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ –
4) มีใบรับรองแพทย์ที่รับรองว่าผู้เดินทางปลอดเชื้อโรควัววิด-19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID-19 is not detected) โดยแนวทางการ RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการเดินทาง
5) กรณีเคยติดโรคต้องได้รับวัคซีนตามที่มีการกำหนด 2 เข็ม (ตามจำพวกวัคซีน) อย่างน้อย 14 วัน
6) มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายรวมทั้งเยียวยารักษา หรือหลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมทั้งกรณีโรควัววิด – 19 ตลอดเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
7) ให้มีการตรวจหาเชื้อโรควัววิด-19 โดยแนวทาง RT-PCR จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (day 0)ในท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ตโดยพักรอในห้องเช่า 1 คืน เพื่อรอรับแจ้งผลของการตรวจผ่านทางผู้จัดการ (COVID-19 Manager) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-7ในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่พักที่อาศัย
หรือห้องทดลอง (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา รวมทั้งครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-13ในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่พักที่อาศัยหรือห้องทดลอง (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา
8 ) ต้องเข้าพักพิงในสถานประกอบการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ในจังหวัดภูเก็ต เป็นระยะเวลา 14 คืน ก็เลยสามารถเดินทางออกนอกจังหวัดภูเก็ตเพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นได้ กรณีพักพิงไม่ถึง 14 คืน ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรแค่นั้น
ดังนี้ เครื่องหมาย SHA+ (SHA Plus) หมายความว่า ธุรกิจที่ผ่านการรับรองไม่เพียงแต่ตรงตามเกณฑ์การรับรอง SHA แค่นั้น แต่ยังรวมทั้งบุคลากรเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อย่างน้อย 70% ได้รับการฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องวัววิด-19 ครบโดส โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง
9) ผู้เดินทางสามารถเดินทางในจังหวัดภูเก็ตรวมทั้งดำเนินกิจกรรมทางการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้บริการสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A
สำหรับมาตรการ D-M-H-T-T-A ดังเช่น
D : Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนอื่น
M : Mask wearing ใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
H : Hand washingล้างมือเสมอๆจัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงพอเพียง
T : Temperature วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการที่บางทีอาจป่วยหนัก
T : Testing ตรวจหาเชื้อวัววิด-19
A : Applicationจัดตั้งรวมทั้งใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” รวมทั้ง “หมอชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกคราว
10) จัดตั้งแอพพลิเคชั่น Thailand Plus รวมทั้ง หมอชนะ รวมทั้งยินยอมให้ระบบติดตามพิกัดตามภูมิศาสตร์ (GPS) ผ่านแอพพลิเคชั่น ตลอดเวลาที่พำนักพักพิงในประเทศไทย
“มาจากต่างประเทศ” อยากได้ “ออกนอกประเทศ” หรือ “ไปชนบท” ทางท่าอากาศยาน
คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมทั้งมุ่งหวังจะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น หรือเดินทางออกนอกราชอาณาจักรทางอากาศ (ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต) ให้ถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
นักเดินทางที่พำนักพักพิงในจังหวัดภูเก็ตครบกำหนด 14 คืน รวมทั้งมุ่งหวังจะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ให้แสดงเอกสารหลักฐาน ต่อเจ้าหน้าที่ในด่านตรวจวิถีทางขาออกในตึกผู้โดยสารภายในประเทศหรือตึกผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังนี้
1. หนังสือเดินทางรวมทั้งวีซ่าที่ตรวจลงยี่ห้อโดย กองตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ตขาเข้า (ยกเว้นผู้มีเชื้อชาติไทย)
2. หลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อวัววิด-19 หมายความว่าตรวจไม่พบเชื้อวัววิด-19 ตลอดเวลา 14 คืน ที่พำนักพักพิงอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข
3. หลักฐานการเข้าพักในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์หรือที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)