“เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มยังร้อนแรงหลังบุกไปถอนแค้นเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เพิ่มสถิติชนะนอกบ้านทุกรายการ 15 เกมติด นำโด่งเป็นจ่าฝูงทิ้ง “ผีแดง” 17 แต้มแต่แข่งมากกว่า2นัด โดยเกมนี้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร แข้งเลือดไทยสร้างประวัติศาสต์มีชื่อติดสำรองเป็นครั้งแรก ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 ม.ย.ที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยี่ยมของจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยนัดแรกที่เอติเตียนฮัด สเตเดี้ยม “หมาจิ้งจอกสีน้ำเงิน” บุกไปกระหน่ำมาถึง 5-2
โดยเกมนี้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มีรายนามเป็นแข้งสำรองหนแรกซึ่งนับเป็นแข้งเลือดไทยคนแรกที่มีรายนามในการเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงเวลาที่เกมนี้ เบรนแด้น ร็อดพบร์ส ส่งสองหัวหอกทั้ง เคลิชี่ อิเฮทุ่งนาโช่ แล้วก็เจมี่ วาร์ดี้ ล่าตาข่าย
ช่วงเวลาที่ “เรือใบสีฟ้า” ที่ก่อนแข่งทิ้งอันดับ 2 แมนฯยูไนเต็ดไปถึง 14 แต้ม เกมนี้พักแข้งหลักบางรายโดยโรเตชั่นด้วยการส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ออกตัวตัวจริงเป็นนัดแรก โดยมี กาเบรียล เชซุส, เควิน เดอ บรอยน์ แล้วก็ริยาด ม่าห์เรซ สนับสนุน
เริ่มมาได้เพียงแค่ 5 นาที แฟร์นันดินโญ่ ซัดนอกกรอบจ่ายบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แม้กระนั้นผู้ตัดสินปฎิเสธไม่ให้ประตูเพราะ กุน อเกวโร่ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปขวางการป้องกันของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
นาที 18 แนวรับหมาจิ้งจอกเกือบจะโดนลงโทษหลัง ทิโมธี กาสตานเญ่ เปิดบอลไม่ดีไม่ติดแข้งซิตี้ก่อนกระดอนมาเข้าทาง อเกวโร่ วอลเลย์ไม่จับเหาะผ่านคานออกไป
อีกสองนาทีถัดมา แมนฯซิตี้ น่าได้ประตูขึ้นนำหลัง เดอ บรอยน์ เรียกฟรีคิกได้หน้าได้ตากรอบ ก่อนจอมทัพเลือดเบลเยียมจะปั่นผ่านกำแพงไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาที 41 ซิตี้พลาดโอกาสได้ประตูอีกรอบ หลัง กาเบรียล เชซุส ดีดบอลให้ ริยาด ม่าห์เรซ หลุดเข้าไปซัดเลียดในกรอบแม้กระนั้นบอลยังไปติดขา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ถัดมาแค่นาทีเดียว โรดรี้ ไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งหลุดเสาออกไปแบบจวนเจียน
นาที 44 กาเบรียล เชซุส ได้บอลในกรอบก่อนเลี้ยงหนีแนวรับหมาจิ้งจอกก่อนพลิกเข้ากึ่งกลางแล้วซัดด้วยขวาแม้กระนั้นบอลเหาะหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 “เดอะ ฟ็อกซ์” ชวดได้ประตูขึ้นนำหลังจากที่ได้มีการใช้จังหวะแรกจากจังหวะที่ อโยเซ่ เปเรซ พนันบอลสุดงามให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปสัมผัสบอลหนี เอแดร์ซอน ก่อนซัดเข้าไป แต่ว่าผู้ติดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ วาร์ดี้ ก่อน
จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันมิได้ เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
ช่วงหลัง นาที 51 เลสเตอร์ โต้ตอบขึ้นมาเกือบจะได้ลุ้นหลัง เคลิชี่ อิเฮทุ่งนาโช่ โซโล่เดี่ยวเลี้ยงหนีเข้าไปก่อนไหลให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปซัดแม้กระนั้นไปติดบล็อคของ รูเบน ดิอาส ที่ช่วยเซฟทัพเรือใบไม่ให้เสียประตูได้จวนเจียน
นาที 58 ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บดอย่างมาก เควิน เดอ บรอยน์ ไหลให้ ริยาด ม่าห์เรซ หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแม้กระนั้นไปติดเซฟของ ชไมเคิ่ล ปัดออกมาบอลยังไม่พ้นอันตราย โรดรี้ ครอสเข้าไปหน้าประตูแม้กระนั้นยังติดแนวรับเลสเตอร์ แต่ว่าบอลมาเข้าทาง แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ เก็บตกในกรอบก่อนล็อคหนี อัลไบรท์ตัน แล้วปั่นด้วยขวาข้างไม่ถนัดจ่ายบอลหนีมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แทงมุมเสาไกลอย่างงดงามให้ “เรือใบสีฟ้า” บุกมาขึ้นนำ 1-0 นาที 74 จ่าฝูง แมนฯซิตี้ ทะยานหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ พนันบอลทะลุช่องสุดเหนือให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปก่อนปาดไปเสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ไม่มีมุมยิงดึงจังหวะล็อคหนีแข้งเจ้าถิ่น 2 คน ก่อนไหลคืนให้ กาเบรียล เชซุส ล้มตัวยิงเข้าไป
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกตี เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 นำจ่าฝูงถัดไปโดยทิ้งอันดับ 2 “ผีแดง” ถึง 17 คะแนนแม้กระนั้น “เรือใบสีฟ้า” แข่งมากยิ่งกว่าสองนัด ส่วน เลสเตอร์ ชวดจังหวะขึ้นรองจ่าฝูงมี 56 คะแนนรั้งอันดับ 3 อย่างเดิม
รายนามผู้เล่นทั้งคู่ทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดเนี่ยล อมาร์ตีย์, จอนนี่ อีแวนส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า – มาร์ค อัลไบรท์ตัน (ริคาร์โด้ เปเรยร่า น.71), วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (นอมขว้างลิส เมนดี้ น.84), ยูริ ตีเลมันส์ , ทิโมธี กาสตานเญ่ – อโยเซ่ เปเรซ – เคลิชี่ อิเฮทุ่งนาโช่ (เจมส์ แมดดิสัน น.72), เจมี่ วาร์ดี้
กุนซือ : เบรนแด้น ร็อดพบร์ส
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – โรดรี้, แฟร์นันดินโญ่ – ริยาด ม่าห์เรซ (เฟร์ราน โคนร์เรส น.79), เควิน เดอ บรอยน์ (ฟิล โฟเด้น น.88), กาเบรียล เชซุส – เซร์คิโอ อเกวโร่ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.63)
กุนซือ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์