ผลการรักษาด้วยวิตามินดีเสริมกับยาอื่น พบว่า ช่วยผู้เจ็บป่วยโควิด-19 ส่วนมากฟื้นเจริญขึ้นเกินกว่า 50% ฉะนั้นแนะว่า ทุกคนควรจะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ด้วยวิตามินดีทั้งยังการกินรวมทั้งการรับแสงอาทิตย์

vitamin1

วันนี้ (14 ก.ค.64) แผนกนักวิจัยชาวอิสราเอล เปิดเผย ภาวะขาดวิตามินดีก่อนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของอาการป่วยรุนแรงรวมทั้งการเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งการวิจัยชิ้นนี้ช่วยไขปัญหาการเจอผู้เจ็บป่วยหนักมากไม่น้อยเลยทีเดียว ปัจจุบันยังส่งผลการดูแลรักษาด้วยวิตามินดีเสริมกับยาอื่น พบว่า ช่วยผู้เจ็บป่วยส่วนมากฟื้นเจริญขึ้นเกินกว่า 50% ฉะนั้นแนะว่า ทุกคนควรจะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ด้วยวิตามินดีทั้งยังการกินรวมทั้งการรับแสงอาทิตย์

มหาวิทยาลัย บาร์ อีลัน (BIU) ของอิสราเอล เปิดเผยการศึกษาและทำการค้นพบของแผนกนักวิจัยชาวอิสราเอล ว่า ภาวะขาดวิตามินดีก่อนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของอาการป่วยรุนแรงรวมทั้งการเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

vitamin2

การเรียนรู้ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทำโดยมหาวิทยาลัยรวมทั้งศูนย์การแพทย์กาลิลี (GMC) โดยได้ประเมินความสัมพันธ์ของวิตามินดีในร่างกายที่ระดับต่ำก่อนติดเชื้อรวมทั้งความร้ายแรงของโรคโควิด-19 โดยแผนกนักวิจัยได้ทำการวัด

ระดับวิตามินดีในร่างกายของผู้เจ็บป่วยที่เข้ารักษาตัวในศูนย์การแพทย์ก่อนผลตรวจโรคเป็นบวกในช่วงเวลา 14-730 วัน
รวมทั้งเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะบางส่วนหรือปานกลางแล้วพบว่า คนที่มีลักษณะหนักมักมีภาวะขาดวิตามินดีอย่างหนักก่อนติดเชื้อ โดยอยู่ที่ต่ำกว่า 20 ที่นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร นับว่าเป็นภาวะขาดวิตามินดี เวลาที่ภาวะพร่องวิตามินดี 20-30 ที่นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ส่วนระดับธรรมดา จะมากกว่า 30 ที่นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร การศึกษาและทำการค้นพบนี้ถือว่าเป็นการไขปัญหาที่ยังค้างคาว่า “เพราะเหตุใดผู้เจ็บป่วยโรคโควิด-19 บางรายมีลักษณะเจ็บป่วยกว่ารายอื่นๆ”

vitamin3

เว็บไซต์ vdmeta.com ได้เปิดเผยข้อมูลการเรียนรู้ทางสถิติจากการรวบรวมข้อมูล 88 งาน พบว่า 93% เกี่ยวกับการดูแลรักษาด้วยวิตามินดี มี 29 งานส่งผลในเชิงบวก รวมทั้งส่งผลการเรียนรู้ 59 เรื่องที่ชี้ให้เห็นว่าผู้เจ็บป่วยอาการดียิ่งขึ้น 56% สามารถใช้เป็นยาเสริมการดูแลรักษาที่มีคุณภาพในผู้เจ็บป่วยที่เข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลที่ติดเชื้อโควิด รวมทั้งยังช่วยปรับปรุงภูมิคุ้มกัน

vitamin4

การใช้วิตามินดียังชี้ให้เห็นว่าพายุไซโตไคน์ลดลงด้วย ทั้งนี้ ไซโตไคน์เป็นสารที่สร้างรวมทั้งหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันไซโตไคน์หลายแบบมีก่อการอักเสบ รวมทั้งจู่โจมเซลล์ที่ดี
อย่างไรก็ดีผลการศึกษาวิจัยยังมีเหตุที่แตกต่าง ดังเช่นว่าความล่าช้าสำหรับในการรักษา จำนวนผู้เจ็บป่วย ตัวแปร ต้นแบบการดูแลรักษา การกินอาหาร การให้รับแสงอาทิตย์ รวมทั้งรูปแบบของวิตามินดีที่ใช้ มีทั้งยังวิตามินดี 2 รวมทั้งวิตามินดี 3

vitamin5

ตอนนี้พบว่าคนเมืองกรุงเทวดาฯ รวมทั้งพนักงานที่ทำงาน 1 ใน 3 มีภาวะพร่องวิตามินดี (Vitamin D) หรือมีระดับวิตามินดีในปริมาณที่ต่ำ เนื่องจากความประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดด ทำให้ผิวหนังไม่สามารถที่จะสังเคราะห์วิตามินดีได้เท่าที่ควร ฉะนั้นการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวิตามินดี ประกอบดัวย

vitamin6

1.ทำกิจกรรมที่ได้รับแสงแดด อย่างต่ำ 15 นาที จำนวน 2-4 ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แต่ละคนต้องการแสงอาทิตย์ในปริมาณที่ไม่เหมือนกัน โดยคนผิวสีอ่อน รับแดดตอนหน้าร้อนเพียงวันละ 20 นาที ส่วนคนผิวสีเข้ม บางทีอาจจำต้องใช้เวลารับแดดนานขึ้น 6 เท่า เพื่อผลิตวิตามินดีในปริมาณเท่ากัน แต่ขณะเดียวกันสีผิวที่เข้มกว่าก็มีเกราะป้องกันปัญหาผิวไหม้ได้ดีกว่า

2.กินอาหารที่ให้วิตามินดีสูง ดังเช่นว่า ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน น้ำมันตับปลา ไข่แดง นม มาร์การีน ซีเรียล เป็นต้น

3.อาหารเสริมวิตามินดี ถูกนำมาสกัด ในต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ด้าน Bonnie Henry แพทย์ชาวแคนาดา ชี้แนะเพิ่มว่าภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเชื้อโรค แม้ว่าคุณจะรับประทานอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกมาจากบ้าน ไปสวนสาธารณะ หาดทราย เป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะมากขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านรวมทั้งบริโภคของกินทอด เผ็ด หวาน เครื่องดื่มที่ไม่ใช้เรื่องดีสำหรับสุขภาพ