สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “จะนะ สงขลา” การต่อต้านโครงงานนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ก่อนจะถูกสลายการรวมกันในคืนวันที่ 6 ธันวาคม 64 จนกำเนิด #saveจะนะ
แฮชแท็ก #Saveจะนะ จากเรื่องราวสลายการรวมกัน 6 ธันวาคม 64 ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เวลานี้ กำเนิดอะไรขึ้นกับอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ทำไมประชาชนจำต้องออกมารวมกัน กรุงเทวดาธุรกิจออนไลน์สรุปมาให้แล้ว
เรื่องก่อนจะสลายการรวมกันม็อบจะนะ
ที่ไปที่มาของโครงงานนิคมอุตสาหกรรมจะนะมีที่มาตั้งแต่โครงงานเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยืนยง’ของรัฐบาลยุคแผนกรักษาความเงียบสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2559 ที่ปรารถนาแปลง 3 พื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น
อ.เบตง จ.ยะลา
อ.สุไหงโกลก จังหวัดจังหวัดนราธิวาส
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
เพื่อเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ด้วยการตั้งเป้าหมายว่าจะขยายรายได้และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับผู้คนในพื้นที่นั้นๆดังนี้มีการประเมินการลงทุนไว้โดยประมาณ 6 แสนล้านบาท
เมื่อปี 2562 คณะรัฐมนตรีก็อนุมัติให้ อ.จะนะ จังหวัดสงขลา กลายมาเป็นพื้นที่แห่งที่ 4 ของโครงงานเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเกิดแนวทางพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจะนะในเวลาต่อมาโดยมีเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่จะนะภายใต้การขยายพื้นที่สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยืนยง แม้กระนั้นในเวลาต่อมามีการต่อต้านโครงงานจากคนในพื้นที่และมีการมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อแย้งโครงงาน
ม็อบ10ธันวา63 กลุ่มรักษ์จะนะหน้าทำเนียบ
ราษฎรจะนะ จังหวัดสงขลา รวมตัวหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อแย้งโครงงานนิคมอุตสาหกรรมจะนะ โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 4 ข้อ
1.รัฐบาลจำต้องเลิกการดำเนินโครงงานจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าที่อนาคตทั้งหมด ทั้งยังการปรับแต่งผังเมืองและการเรียนรู้ผลพวงด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ในทันทีทันใด เพื่อหยุดมรดกอันเสื่อมเสียอันไม่ชอบธรรมที่ส่งต่อมาจากระบอบ คสช.
2.เมื่อยุติเตียนการเดินหน้าโครงงานแล้ว ให้รัฐบาลจัดให้มีการเรียนผลพวงเชิงที่มีความสำคัญในการรบ หรือ SEA อย่างละเอียด เพื่อสร้างชุดข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจต่อแนวทางและโครงงานพัฒนาในพื้นที่ต่างๆของภาคใต้ต่อไป
รัฐบาลรับเรื่อง ออกปากชะลอนิคมจะนะ
จากการรวมกันหน้าทำเนียบ นายกฯได้มอบหมายให้ ร้อยเอกธรรมนัส (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในช่วงเวลานั้น) สนทนากับผู้รวมกัน และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการตั้งคณะกรรมการตรวจดูข้อเท็จจริงโครงงานฯ
โดยสรุปว่าการดำเนินงานก่อนหน้าที่ผ่านมานับว่าทำผิดมติคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) และได้มีการทำหนังสือถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติบต.) ให้เลิกโครงงานเป็นการเลิกชั่วคราว
ม็อบ 6 ธันวา รวมกันอีกที เรียกร้องความก้าวหน้า
แม้กระนั้นเวลาผ่านไป 1 ปี รัฐบาลไม่มีการดำเนินงานอะไรก็ตามเพื่อจัดการกับปัญหาดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และยังเดินหน้าทำวิธีการแก้ไขผังเมืองในพื้นที่ เพื่อเปลี่ยนสีผังเมืองจากพื้นที่สีเขียว หรือที่ดินจำพวกชนบทและเกษตรกรรม และที่ดินจำพวกอนุรักษ์ป่าดง ให้กลายเป็นพื้นที่สีม่วงซึ่งเป็นสำหรับประกอบอุตสาหกรรม สำหรับนิคมอุตสาหกรรมกว่า 16,700 ไร่ และมีการเดินหน้าทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA,EHIA) ทั้งยัง 4 โครงงาน ของบริษัท TPIPP ซึ่งผิดเงื่อนไขกติกาที่ได้มีการเซ็นชื่อกันไว้
ทำให้ชาวบ้านจะนะ ในนาม “จะนะรักษ์ถิ่น” รวมกันโดยสันติวิธีเพื่อมาทวงถามคำสัญญาจากรัฐบาลสำหรับเพื่อการหยุดวิธีการทุกขั้นตอนของ “โครงงานจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าที่อนาคต”
6 ธันวา ช่วงกลางคืนคฝ. เข้าสลายการรวมกันจะนะ
ระยะเวลา เวลา 19.30 น ของวันที่ 6 ธันวา ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยประมาณ 100 นายบุกจับชาวจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักรวมกันต่อต้านอยู่รอบๆหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีการจับกุมผู้รวมกันได้ปริมาณ 36 คน กลายเป็นข้อแย้งว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า เพราะเหตุว่าการรวมกันก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นการรวมกันโดยสงบ
ผู้ประกาศรัฐบาลแจ้ง นายกมิได้สั่งสลายการรวมกัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ ผู้ประกาศประจำนร กล่าวว่ากรณีตำรวจควบคุมฝูงชนบุกจับชาวจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักรวมกันต่อต้านอยู่รอบๆหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนนี้ (6 ธันวาคม) ก่อนหน้าที่ผ่านมาการันตีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มิได้ออกคำสั่งอะไรก็ตามเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบและโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเรียกร้องของราษฎรเสมอ แม้กระนั้นจำต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ไม่ใช่มารวมตัวกันตั้งเต็นท์ กางผ้าใบ ทำเป็นหมู่บ้านลูกทะเล จะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักค้าง ซึ่งผิดจำต้อง เนื่องจากว่าในช่วงเวลานี้รัฐบาลยังคงจำต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของวัววิด-19 อย่างเข้มงวดอยู่ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมาได้
แม้กระนั้น นายธนกร กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ แล้วต่อจากนั้นจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับผู้โดนจับกุมนั้น เป็นชาย 6 คน และหญิง 31 คน ซึ่งเป็นการจับกุมซึ่งหน้า
